วันอังคาร, สิงหาคม 19, 2557

เฮโรอินไทยไปไต้หวัน : 'ดวงจำปา' มีรายงาน

ข่าวที่เงียบกริบในเมืองไทยเรื่องว่ามีการจับกุมการลักลอบขนยาเสพติด ด้วยสายการบินไทยจากกรุงเทพฯ เข้าสู่ไต้หวัน โดยสอดใส่ไว้ในกล่องนมถั่วเหลืองยี่ห้อ 'ดอยคำ' นั้นเป็นที่สนใจกันอย่างล้นหลามในแวดวงโซเชียลมีเดีย หากแต่ไม่มีรายละเอียดที่สมบูรณ์และแน่นอนมากนัก เนื่องจากเนื้อหาข่าวหลักเรื่องนี้ปรากฏในภาษาจีน และไม่มีใครแปลจากภาษาจีนไต้หวันไปสู่ภาษาไทยไว้โดยตรง

นับเป็นคุณูปการต่อการสื่อสารด้านอีเล็คโทรนิคของไทยเป็นอย่างยิ่งที่คุณ 'ดวงจำปา' หรือ ดร.  Doungchampa Spencer Isenberg ชาวอเมริกันเชื้อสายไทยผู้มีชื่อเสียงกว้างขวางในโลกไซเบอร์ ได้ทำการค้นหาต้นตอของข่าวแล้วใช้บริการ Google Translation แปลจากภาษาจีนเป็นภาษาอังกฤษก่อน ได้เนื้อความดังที่คุณดวงจำปาเขียนไว้บนหน้าเฟชบุ๊คของเธอ ดังนี้

"เมื่อวาน ดิฉันไปเห็นการโพสต์เกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด ที่มีเรื่องของกล่อง “ดอยคำ” แต่เวปที่ลงไว้เป็นภาษาจีนกัน ก็เลยทำการแปลจากกูเกิ้ลเป็นภาษาอังกฤษก่อนว่ามันหมายถึงอะไร

เนื้อหาเรื่องของข่าว ของยาเสพติดที่อยู่ในกล่อง “ดอยคำ” นั้น ไม่ได้ระบุถึงสายการบินใด เพียงแต่ระบุว่ามีการลอบขนเข้ามา ไปอยู่ที่สถานีสำรวจแห่งหนึ่งที่เมือง Keelung ผู้ต้องหา คือนาย Wu เป็นผู้ลอบขนเอาพัสดุชิ้นนี้เข้าประเทศ แต่ถูกทางศุลกากรของไต้หวันจับได้ แต่ไม่ได้กระตุ้นให้เกิดความสงสัยใดๆ คือให้พัสดุมาถึงนาย Zheng ที่เป็นผู้รับของปลายทาง ให้มีการขนส่งพัสดุตามปกติ ทางเจ้าหน้าที่ยาเสพติดเขาก็ติดตาม “พัสดุ” ชิ้นนั้น จนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทางคือผู้รับ

พัสดุที่ลอบขนเข้ามาชิ้่นนี้ มาอยู๋ที่ด่านศุลกากรของไต้หวัน ที่เมืองคีลุง (Keelung)

นาย Zheng ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ Supermarket แต่ตอนหลังถูกจับได้ เฮโรอินที่จับได้ในวันนั้นมีน้ำหนัก 6.3 กิโลกรัม อยู่ในกล่องพัสดุที่ใส่กล่อง “ดอยคำ” ไว้เท่านั้นเอง"


คุณดวงจำปาเธอมีคอมเม้นต์ต่อการที่เกิดคลาดเคลื่อนในเนื้อหาข่าวที่กระจายอยู่ตามหน้ากระดานอีเล็คโทรนิคเล็กน้อยว่า

"แต่เห็น page ต่างๆ ใน Facebook เอาบทความภาษาจีน ซึ่งเป็นบทความเดียวกัน นำไปปรับปรุงข้อความไปลงกัน (แถมมีการแปลเป็นไทยจนเสร็จ) ต่างลงว่าเป็นการขนส่งโดยตรง บางท่านที่โพสต์ถึงกับบอกเลขที่ของเที่ยวบิน TG ไว้ด้วย ซึ่งไม่เป็นเรื่องที่ถูกต้อง มีความคลาดเคลื่อน และสร้างความแตกตื่นและเข้าใจผิดให้กับผู้คนที่อ่านจากการกระจายข่าวลือ ดิฉันไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ปล่อยข่าวแบบนี้ ซึ่งทำให้สังคมเราต้องผวากันตลอดจาก “ข่าวลือ” ทั้งหลายแหล่อย่างนั้นกันหรืออย่างไร?

และนิสัยคนส่วนใหญ่ไม่ชอบกูเกิ้ล search เพื่อหาข้อมูลที่ถูกต้องด้วย ตะบันแชร์กันอย่างเดียว...
"


ไม่เพียงเท่านั้นคุณดวงจำปายังได้ทำสืบเสาะถึงข้อเท็จจริงเบื้องลึก (investigative search) ต่อไปอีก จนได้ รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลักลอบขนยาเสพติดจากไทยไปสู่ไต้หวันอย่างกระจ่าง สรุปรวมความได้ว่ามีการ "จับเฮโรอีนในไต้หวันได้ 3 ครั้งติดกัน โดยขนออกไปจากประเทศไทย" ดังข้อเขียนของเธอต่อไปนี้


ผู้ต้องหาการขนส่งเฮโรอิน หลบหนีออกไปจากด่านศุลกากรของไต้หวัน 

ไทเป – ผู้ต้องหาสองคนที่ถูกกล่าวหาว่าขนถุงเฮโรอีนเข้ามาในสาธารณรัฐไต้หวัน ได้หลบหนีไปจากการตรวจสอบที่ด่านศุลกากรเมื่อตอนที่เดินทางถึงสนามบินนานาชาติเถาหยวนของไต้หวัน (Taiwan Taoyuan International Airport) ในตอนกลางคืนของวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา ตามรายงานจาก สำนักงานการบินตำรวจ (Aviation Police Bureau หรือ APB) ที่กล่าวไว้เมื่อวานนี้ (12 สิงหาคม )

ทางสำนักงานการบินตำรวจ APB กล่าวว่า ผู้ต้องหาสองคน มีผู้ชายหนึ่งคนและผู้หญิงอีกหนึ่งคน ขึ้นเครื่องบินโดยสาร โดยเที่ยวบินจากกรุงเทพมหานครมาถึงกรุงไทเปเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม กระเป๋าเดินทางของผู้โดยสารทั้งสองนั้นได้ถูกติดป้ายเพื่อทำการตรวจค้น (Tagged) โดยระบบการตรวจกระเป๋าอัตโนมัติของทางสนามบิน เมื่อตอนที่เดินทางเข้ามาถึงสนามบิน ทางสำนักงานยังระบุต่อไปว่า มันถึงเวลาที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรจะทำการเปิดและตรวจค้นกระเป๋าเดินทางของผู้ต้องหาทั้งสองคนที่ถูกติดป้ายเพิ่อรับการตรวจค้นอยู่

ผู้ต้องหาผู้หญิงใช้ชื่อนามสกุลว่า เฉิน (Chen) ได้นำเอากระเป๋าเดินทางของเธอขึ้นมาวางบนโต๊ะ และบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าต้องการไปแลกเงิน จากนั้นก็หลบหนีออกไปจากสถานที่ที่ทำการตรวจค้น ส่วนผู้ต้องหาอีกคนหนึ่งใช้ชื่อสกุลว่า เหลียว (Liao) กำลังพูดคุยอยู่ทางโทรศัพท์มือถือในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นกระเป๋าเดินทางของคนอื่น ต่อมานายเหลียวได้บอกกับเจ้าหน้าที่ศุลกาการว่าเขาต้องการที่จะใช้ห้องน้ำ จากนั้นก็เดินออกไปจากบริเวณนั้น รายงานได้ระบุต่อไปว่า กระเป๋าเดินทางก็ยังอยู่ ณ ที่นั้นจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ศุลกากรทำการเปิดตรวจค้น ก็ได้พบถุงใส่ยาเสพติดเฮโรอีนซ่อนอยู่ข้างใน และทราบว่าตัวผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนีออกไปแล้ว ทางสำนักงาน APB กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งสองจงใจซ่อนเฮโรอินที่มีน้ำหนักทั้งหมด 8.855 กิโลกรัมอยู่ห่อต่างๆ ของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (Instant Noodles Packages)

สำนักงาน APB ยังกล่าวต่อไปว่า มีเที่ยวบินโดยสารจำนวนทั้งหมด 7-8 เที่ยว เข้ามาลงที่สนามบินเถาหยวนในเวลาเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ศุลกากรมีความยุ่งวุ่นวายเป็นอย่างยิ่งต่อการตรวจสอบกระเป๋าเดินทางของผู้โดยสารเหล่านั้น ทางสำนักงานยังกล่าวต่อไปว่า หลังจากที่ผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนีออกไปจากสนามบินแล้ว ทางการได้จัดตั้งทีมงานอย่างเร่งด่วนเพื่อทำการตรวจสอบประวัติการเดินทางของทั้งสองคน และพบว่ายังมีผู้ต้องหาอีกสองคนซึ่งเป็นผู้ชายคนหนึ่งและผู้หญิงอีกคนหนึ่งรวมอยู่ด้วย และทั้งสองคนนี้ก็มีกำหนดการเดินทางเข้ามาถึงสนามบินไต้หวัน ในเที่ยวบินเลขที่เดียวกัน แต่เป็นคนละวัน คือมาถึงในวันที่ 11 สิงหาคมแทน

สำนักงาน APB รายงานต่อว่า เจ้าหน้าที่ศุลกากรได้ทำการติดตามกระเป๋าเดินทางของผู้ต้องหาอีกสองคนนี้ หลังจากที่เดินทางถึงสนามบินเรียบร้อยแล้ว และต่อมาได้พบเฮโรอีนอีกชุดหนึ่งที่มีน้ำหนักทั้งหมด 8.938 กิโลกรัมซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทาง มีการบันทึกต่อว่า ผู้ต้องหาสองคนหลังนั้นก็ยังซ่อนเฮโรอินอยู่ในห่อต่างๆ ของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีกด้วย หลังจากนั้นสำนักงาน APB ระบุว่า ผู้ต้องหาทั้งสองได้ถูกส่งตัวผ่านไปยังสำนักงานอัยการของเขตเถาหยวน (Taoyuan District Prosecutors Office) เพื่อดำเนินการซักถามต่อไป

ทางสำนักงานแถลงต่อไปว่า ผู้ต้องหาทั้งสี่คนนั้นพยายามที่จะขนเฮโรอีนที่มีน้ำหนักเกือบ 17 กิโลกรัมเข้ามาในประเทศ และมีมูลค่าทั้งหมด 1,300 ล้านดอลล่าร์ไต้หวัน (ประมาณ 1,384 ล้านบาท) ตามการสืบสวนขั้นแรกนั้นกล่าวว่า บุคคลวงในเกี่ยวกับการขนส่งยาเสพติดนั้น พยายามแสวงหาพนักงานร้านคาราโอเกะ (Karaoke Hostesses) และบุคลากรต่างๆ เพื่อที่จะเดินทางเข้าไปยังประเทศไทย จากนั้นก็ทำการขนยาเสพติดเข้ามาในประเทศไต้หวัน ทางสำนักงาน APB ยังทำการบันทึกว่า ทางสำนักงานกำลังติดตามดูว่านายเหลียงและนางเฉินนั้นหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหนในเวลานี้ ทางสำนักงานอัยการเขตได้รายงานเพิ่มว่า ทางสำนักงานก็ยังทำการสืบสวนในเรื่องของบุคคลวงในที่ทำการซื้อขายขนส่งยาเสพติดอยู่อย่างไม่หยุดยั้งต่อไป


คุณดวงจำปากรุณานำข้อเท็จจริงล่าสุดมาสมทบไว้ด้วย

"มีรายงาน Confirm มาว่า Flight ของนาง Chen กับ นาย Liao นั้น เดินทางด้วยสายการบินไทยเที่ยวบิน TG636 ในวันที่ 10 สิงหาคม

จากข่าวที่สรุปไว้ก็หมายความว่า ในวันรุ่งขึ้น คือวันที่ 11 สิงหาคม กลุ่มบุคคลอีกสองคนที่ขนยาเสพติด ก็โดยสารเข้าประเทศไต้หวันโดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG636 เช่นเดียวกัน


TG 636 เป็นเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ เข้ามาถึงไต้หวัน อันนี้ยืนยันว่าเป็นเครื่องบินจากข่าวที่นำมาลงและมีการอ้างอิงไว้ในคอมเม้นท์ที่สอดคล้องกัน

การวางแผนงานเป็นทีมนั้นใช้บุคคลากรทำงานกันสองชุด ชุดละสองคน เป็นผู้หญิงหนึ่งผู้ชายอีกหนึ่ง และใช้โค้ดด้วยการนำเอา Flight Number หมายเลขเดียวกันเพื่อสะดวกในการรับของ รวมทั้งเวลาที่มาถึงด้วย พวกทำการขนส่งแบบนี้จะเช็คดูทุกอย่างว่าช่วงไหนเป็นช่วงที่วุ่นวาย Busy มากที่สุด เพื่อถือโอกาสที่ว่าของที่นำเข้ามาอาจจะเล็ดลอดผ่านไปได้ หรือไม่ก็ถ้าถูกตรวจค้นก็สามารถหลบหนีออกไปตัวเปล่าได้ เนื่องจากว่าผ่านด่านคนตรวจคนเข้าเมืองมาเรียบร้อยแล้ว

แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากๆ คือ ทำไมทางประเทศไทยไม่มีมาตรการตรวจสอบกระเป๋าที่บรรจุยาเสพติดเหล่านี้ได้เลยหรือ? ไม่ทราบว่ามีหรือไม่ (เช่นเอาสุนัขไปดมๆ กระเป๋าที่ต้องสงสัย) และติดตามถึงเทคโนโลยี่ ที่สามารถตรวจค้นยาเสพติดได้จากการ x-ray หรือจากการใช้เครื่องมืออะไรก็แล้วแต่
"


คุณดวงจำปาให้ความเห็นอันน่าสนใจ เพิ่มเติมเกี่ยวกับการป้องกันการลักลอบเช่นนี้

"เพียง แต่แค่ต้นเดือนสิงหาคมอย่างเดียว ยาเสพติดเฮโรอีนเป็นจำนวนเกือบ 24 กิโลกรัม ได้ถูกนำเข้าสู่ประเทศไต้หวัน ถึง 3 ครั้ง ภายในเวลาไล่เลี่ยกัน ประมาณแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้นเอง

และที่สำคัญที่สุดคือ เฮโรอินเหล่านั้น มีต้นกำเนิดมาจากประเทศไทย


ดูไปแล้ว มันเหมือนกับว่าทางเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของไทยกลับไปทำ Priority เรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับการจับกุมบุคคลผู้มีทัศนคติเห็นต่าง หรือเกี่ยวกับเรื่องการหมิ่นฯ กันทั้งหมด เพื่อสร้างผลงานและอ้างถึง "ความจงรักภักดี" แทนที่จะทุ่มเทให้กับเรื่องการปราบปรามยาเสพติดเหล่านี้กันบ้าง

เห็นบอกว่าต้องการรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากจีนและไต้หวัน ก็อาจจะกลายเป็นประเภทของนักท่องเที่ยวแบบนี้แทน คือเข้ามาขนของรับส่งกลับบ้านมั้งคะ?"