วันเสาร์, ตุลาคม 04, 2557

สุนัย จุลพงศธร : มุมมองต่อปรากฎการณ์ฮ่องกง และผลกระทบต่อประเทศไทย


ในโอกาสวันชาติจีน (1 ตุลาคม) ขอเสนอมุมมองการลุกขึ้นสู้ เพื่อประชาธิปไตยของพี่น้องฮ่องกงว่าเป็นอันตรายต่อจีน และมีผลกับไทย ที่นับวันจะอยู่ในค่ายจีนจนแกะไม่ออก และบอกความจริงของยุคสมัย ที่เกี่ยวข้องกับไทยที่น่าสนใจมาก ดังนี้

1. ระบอบปักกิ่งได้แสดงบทบาทที่ล้าหลัง เรื่องสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ที่สุดส่งผลให้เป็นผู้ร้ายของโลก นับตั้งแต่การสังหารประชาชนที่เทียนอันเหมิน และภาพพจน์นี้จะกัดกร่อนรัฐบาลปักกิ่ง ที่มีขนาดใหญ่แม้ไม่พังง่ายแต่จะง่อยเปลี้ยทางการเมืองในการแข่งขันการนำกับโลกตะวันตก

2. ทำให้เราได้คำตอบว่า ทำไมรัฐบาลปักกิ่ง จึงกอดคอกับพม่าในอดีตที่คนทั้งโลกต่อต้าน และเป็นเจ้าแรกที่ส่งฑูตไปรับรองการยึดอำนาจของไทยทุกครั้ง ตั้งแต่รัฐประหาร 19 ก.ย.49 มาจนถึง คสช.ในขณะที่รัฐบาลกลุ่มตะวันตกไม่เอาด้วย ชัดเจนว่าโลกหลังสงครามเย็น ขีดเส้นแบ่งอย่างมีนัยสำคัญ ระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ พระเอกกับผู้ร้ายทางการเมืองแล้วนี้ คือ "ระเบียบโลกใหม่" แต่ระบอบปักกิ่งกับระบอบไทยไม่สนใจ พร้อมจะเป็นผู้ร้ายกอดคอจมน้ำด้วยกัน

3.ทำให้เราได้คำตอบว่าทำไมหลังยุคสงครามเย็นราชสำนักไทยจึงแนบแน่นกับระบอบปักกิ่งมากกว่าโลกตะวันตก

4. กลุ่ม G8 ที่เป็นยักษ์ใหญ่ด้านการลงทุน และมีบทบาทต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ต้องปรับเปลี่ยนนโยบายและจะมีผลกระทบต่อไทยแน่นอน

5. ฮ่องกงคือศูนย์การค้าใหญ่ของเอเชียตะวันออก และอาเซียนซึ่งเปป็นศูนย์กลางตลาดเงิน ตลาดหลักทรัพย์และทองคำ ดังนั้น หากปักกิ่งยังยืนยันทีจะหักดิบฮ่องกง เชื่อว่าจะเกิดผลกระทบกับไทยหนักกว่าประเทศอื่น เพราะไทยต้องทรุดหนักกับวิกฤตการเมืองปลายรัชกาลระบอบปกครองคลอนแคลนอย่างที่สุด และมีแนวโน้มจะเข้าสู่วิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีผลรุนแรงต่อการพังทะลายที่ คสช.จะควบคุมไม่ได้ ส่วนจะเหมือนวิกฤต 2540 หรือ 2472 ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง ต้องเกาะติดครับ

เสนอมาด้วยความห่วงใยต่อพี่น้องและประเทศชาติ อย่าประมาทมองวิกฤติฮ่องกงชินชา เหมือนที่เราอยู่กับความเลวร้ายในไทยจนไม่รู้สึกตัว

สุนัย จุลพงศธร

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พลัดถิ่น
เขียนเมื่อ 1ตุลาคม 2557