วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 11, 2557

ฑูตอิสราเอลจวกไทย ขาดการศึกษาเรื่องนาซี เตือนประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย


BY ASAJEREE

เอกอัครราชฑูตอิสราเอล ประจำประเทศไทย กล่าวว่าตนเสียใจอย่างมากที่เห็นสัญลักษณ์นาซีในหนังของรัฐบาลไทย จวกการศึกษาไทยไม่เคยสอน เตือนประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย

เฟสบุ๊ก Israel in Thailand ได้เผยแพร่ข้อความของนายไซม่อน โรเด็ด เอกอัคราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทยต่อการใช้สัญลักษณ์ของลัทธินาซีในภาพยนตร์ของรัฐบาลไทย

“ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากต่อการที่หนังของรัฐบาลไทยนำสัญลักษณ์ของลัทธินาซีมาใช้อย่างผิดๆ ฮิตเล่อร์และระบอบนาซีนั้นได้กระทำการที่โหดเหี้ยมอย่างมากในการฆาตรกรรมคนถึง 11ล้านคน ในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ซึ่งความผิดของพวกเขานั้นเพียงแค่เพราะพวกเขามีความแตกต่าง

ผมรู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่ในช่วงระหว่างที่หนังเรื่องนี้จะได้ออกไปสู่สาธารณะชน ไม่มีคนที่มีความรู้ มีการศึกษา สักคนเลยที่เห็นว่ามันเป็นปัญหาและน่ารังเกียจอย่างรุนแรง

อย่างไรก็ดีนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้เห็นความไม่ยินดียินร้ายต่อประวัติศาสตร์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในไทย

บทเรียนจากเรื่องนี้ก็คือว่าการศึกษาเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยเฉพาะเรื่องความทุกข์ทรมาณ ควรที่จะถูกบรรจุอยู่ในหลักสูตรของไทย

ถ้าหาเราไม่เรียนรู้จากประวัติศาสตร์ และสอนลูกหลานของเรา ประวัติศาสตร์ศาสตร์ก็อาจจะเกิดขึ้นซ้ำรอยได้”

ทั้งนี้ เพจดังกล่าวยังได้โพสต์ข่าวของสำนักข่าว ข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นบทสัมภาษณ์ของกัลป์ กัลย์จาฤก ผู้กำกับหนังสั้นเรื่อง 30 หนึ่งในหนังเพื่อส่งเสริมค่านิยม12ประการของ คสช ที่มีสัญลักษณ์สวัสดิกะและฮิตเล่อร์อยู่ในเรื่อง กัลป์กล่าวในตอนหนึ่งว่า เขาเห็นว่าการใช้รูปฮิตเล่อร์นั้นสามารถพบเห็นได้ทั่วไป เช่นบนเสื้อและที่ต่างๆ มันกลายเป็นแฟชั่นไปแล้ว ซึ่งไม่ได้หมายความว่าตนเห็นด้วย แต่ตนก็ไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาแต่อย่างใด

(บทสัมภาษณ์จากข่าวสด http://www.khaosodenglish.com/detail.php?newsid=1418125133)
ooo



Ambassador of Israel to Thailand, H.E. Mr. Simon Roded's response to Nazi symbols being used in an official Thai Government film:

"I was deeply saddened to see this trivialization and misuse of Nazi symbols in an official Thai movie.

Hitler and the Nazi regime were responsible for a systemic, horrific and racist murder of 11million people during the Holocaust. Men, women and children whose only crime was being different.

I was surprised that throughout the screening process this movie must have gone through to be approved for public broadcast, none of the smart, well educated people checking it had identified it as being problematic and offensive.

Unfortunately, it is not the first time we are encountering such ignorance of the history of the Holocaust in Thailand.

If we learn anything from this incident it is that Holocaust education, especially its global messages of tolerance, should be introduced into the Thai curriculum.

If we do not learn from history, and teach it to our children, we are in danger of its atrocities being repeated."

Source: 

ล่าสุด รัฐบาลสั่งเปลี่ยนภาพ...


หม่อมหลวงปนัดดา ชี้แจงเนื้อหาในภาพยนตร์เรื่องสั้นชุดไทยนิยมที่ปรากฎภาพ 'ฮิตเลอร์' ในฉากหนึ่งนั้น ขณะที่ทางผู้กำกับได้เปลี่ยนภาพแล้ว พร้อมยืนยัน

หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณี ภาพยนตร์เรื่องสั้นชุดไทยนิยม เรื่อง "เรียนรู้อธิปไตยของประชา" มีภาพวาดที่เด็กน้อย (ตัวเอก) เขียนเป็นรูปฮิตเลอร์อยู่นั้นโดยข้อเท็จจริงภาพยนตร์พยายามสื่อไปถึงผู้อยู่ในรูปก็คือฮิตเลอร์ว่าเป็นคนเช่นไร เรื่องมีอยู่ว่าเด็กน้อยถูกตามใจจากครอบครัวซึ่งมีฐานะดี เก่งไปหมด แพ้ไม่ได้สักเรื่อง จนลืมธรรมชาติของเด็กและของคน

รูปภาพที่เด็กเขียน ภาพยนตร์สื่อถึงความเข้าใจอย่างผิดๆ ตาม ประสาเด็ก โดยในเรื่องผู้เป็นมารดามีบทบาทมากในชีวิตลูก (ไม่กล่าวถึงบิดา) แม่ยอมตามใจลูกได้แม้กระทั่ง "โกง" เพื่อนของลูก (ราวกับ Dictate) เพื่อที่จะให้ได้มาซึ่ง Project ที่ลูกต้องการทำอันไม่ตรงใจกับเพื่อน โดยแม่ให้เพื่อนของลูกจับไม้สั้นไม้ยาว (ทั้งที่ไม้ยาวเท่ากัน) เพื่อนของลูกยอมทำตามแต่จับได้ภายหลังว่าแม่ของเพื่อนไม่จริงใจ เด็กตัวเอกต้องตามง้อเพื่อน (เป็นภาพที่น่ารักมาก) ตามขอโทษเพื่อน และกลับมาทำงานร่วมกันตามวิถีทางการมีส่วนร่วมที่เรียกว่า "ประชาธิปไตย"

กรณีของ "อดอล์ฟ ฮิตเลอร์" (1889-1945) ที่เคยเป็นปัญหามาก่อน คือ การที่สังคมหรือบางสถาบันการศึกษายกย่องคนที่ผิด (อาจจะในเชิงสนุกสนาน) ที่โหดร้ายทารุณ ทำลายล้างชีวิตมนุษยชาติเป็นจำนวนมหาศาล ได้แก่ ชาวยิว แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ กลับสอนให้เห็นในเชิงคติศึกษาว่า ผู้เป็นแม่นำลูกเดินทางผิด ความเก่งกล้าจนทำให้หลงลืมตัว และนิยมชมชอบคนที่ไม่ดี ในทางกลับกันเด็กที่รับบทเป็นเพื่อนกลับถูกครอบงำอย่างไม่สมควรจะเกิดขึ้น จนกระทั่งจับพฤติกรรมของแม่เพื่อนได้ที่เป็นฉากสำคัญที่สุด

เพื่อตัดปัญหานี้ออกไป ท่านผู้กำกับฯ ตัดสินใจที่จะใช้ภาพอื่นแทนในภาพยนตร์เรื่องที่ 7 นี้ (จาก 12 เรื่อง) ซึ่งท่านบอกว่าไม่ยากลำบากอะไรเลย ใคร่ขอขอบพระคุณท่านมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ที่มา Voice TV