วันศุกร์, ธันวาคม 05, 2557

เผย "บิ๊กตู่" ปูดกลางวงถกผู้บริหารสื่อ รู้และมีหลักฐานคนที่ยิงคนในวัดปทุมวนาราม แถมบอก ปู เอาไม่อยู่ - เฮ้ย รู้ก็จับสิ เอา"หลักฐาน" มาโชว์เลย มาแถตอนนี้ทำไม ตอนเป็นผบทบ.เกียว่างหรือเปล่าที่ทำให้ "ปูเอาไม่อยู่"


"บิ๊กตู่" แฉรู้ดี "สื่อใหน" รับเงินมาเขียนด่า!!!

ที่มา เดลินิวส์ออนไลน์

เผย "บิ๊กตู่" ปูดกลางวงถกผู้บริหารสื่อ ลั่นรู้ดีใครอยู่เบื้องหลังยิง "เสื้อแดง" ที่วัดปทุมฯ และมีนสพ.กลุ่มใด "รับเงิน" มาเขียนด่าทหาร แจงวิกฤตประเทศเกิดขึ้น เพราะ "ปู" เอาไม่อยู่ แถมตร.ยังเกียร์ว่าง พร้อมระบุที่ต้องจัดหนักใส่ "เดอะกิ๊ก" เพราะแอบอ้างเรื่องไม่จริง

เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า ในวงประชุมที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.เชิญผู้บริหารสื่อ 16 สำนัก เข้าหารือนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอธิบายถึงการทำงานและความตั้งใจในการแก้ปัญหาประเทศ แต่สิ่งที่มีการวิจารณ์ ถ้าเป็นสิ่งที่ตนไม่ได้ทำ แล้วมาเขียนก็เป็นเรื่องที่ต้องโกรธเป็นธรรมดา ถือเป็นลักษณะส่วนตัวของตน และการเข้ามารัฐประหาร ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะทำ แต่ในฐานะของคนที่รักษาความมั่นคงของประเทศ ในสถานการณ์เช่นนั้นจะไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะก่อนหน้านี้เคยคุยกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นว่าขอให้เอาให้อยู่ ถ้าทำไม่ได้ จะมาถึงตน ที่ดูแลความมั่นคง ที่สำคัญส่วนหนึ่งมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทำงาน จึงทำให้ประเทศเกิดความวุ่นวาย ทั้งนี้การยึดอำนาจที่เกิดขึ้นไม่ได้คิดว่าจะยึดให้ใคร เพียงแต่อยากหยุด 2 ฝ่ายไม่ให้ตีกัน โดยถ้าจะจับก็ต้องจับหมดทุกฝ่าย แต่ที่สุดแล้วปัญหาจะไม่จบ และด้วยเหตุผลนี้จึงไม่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)ขึ้นมา เพราะจะเป็นการทำลายเขา และเป็นการช่วยอีกฝ่ายหนึ่งมากกว่า

"คนที่ยิงคนในวัดปทุมวนาราม เรามีหลักฐานโยงถึงคนยิงทุกคน และตอนนั้นตำรวจก็อยู่ในวัดปทุมฯ ทำไมถึงไม่ออกมาปฏิบัติหน้าที่ ป้องกันเหตุร้าย และที่มีการถ่ายรูปทหารได้ ก็เป็นเพราะทหารคนนั้นไปยืนแอ๊คให้เขาถ่ายรูปเอง ผมทราบดีว่ามีใครอยู่เบื้องหลัง กลุ่มใด หนังสือพิมพ์รับเงินจากใคร ให้มาเขียนด่าผม"รายงานข่าวระบุถึงคำพูดของนายกรัฐมนตรี

รายงานข่าวยังอ้างถึงคำพูดพล.อ.ประยุทธ์อีกว่า เรื่องกติกาที่จะเกิดขึ้น ตนจะพยายามวางรากฐานภายใน 1 ปี แต่รัฐบาลใหม่จะมาทำหรือไม่ ไม่ทราบ โดยยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด เพราะไม่อยากให้สังคมเกิดความขัดแย้ง และอยากให้เป็นการปฏิรูปครั้งสุดท้าย โดยการร่างรัฐธรรมนูญต้องปล่อยให้นักวิชาการคิดกันไป รัฐบาล และคสช.ไม่เกี่ยวข้อง ทีแรกนึกว่าร่างรัฐธรรมนูญแล้วก็น่าจะจบ แต่กลับต้องยืดไป 3-6 เดือน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกินกว่าที่คิดไว้ เพราะเดิมเราไม่ได้คิดถึงปัญหาเรื่องของกฎหมายลูก โดยคิดว่าเป็นเรื่องง่าย ๆ ซึ่งก่อนการปฏิวัติได้เคยวางแผนไว้กับเพื่อน ๆ ว่าหลังเกษียณอายุราชการ จะไปเที่ยวด้วยกัน แต่เมื่อปฏิวัติแล้วก็ต้องทำต่อ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่น่าดีใจในช่วงการพบปะกับหอการค้าต่างประเทศ ไม่มีใครถามเรื่องการยกเลิกกฎอัยการศึกเลย ถามแต่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ความจริงกฎอัยการศึก ยังจำเป็น ถ้าไม่มีก็ตีกันอีก และตำรวจก็จะไม่ทำหน้าที่อีก.

นอกจากนี้ ในวงประชุม พล.อ.ประยุทธ์ยังด้หยิบยกถึงการจับกุมพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ุ อดีต ผบช.ก.ว่า "ไม่เกี่ยวกับใคร เป็นเรื่องของการแอบอ้าง ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง จึงต้องได้รับโทษหนัก".