วันอาทิตย์, พฤษภาคม 03, 2558

เปิดใจช้ำ ๆ “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ‘ปิดพีซทีวีเหมือนสั่งประหารชีวิต’





‘ปิดพีซทีวีเหมือนสั่งประหารชีวิต’

ที่มา เดลินิวส์
ตรวจการบ้าน

ให้จับคณะกรรมการ กสทช.4 คน มาสาบานต่อรูปปั้นข้างหน้าที่เป็นสิ่งเคารพสักการะว่าไม่มีใครมาสั่งการ ผมว่าไม่มีใครกล้าสาบานวิธีการมันเป็นคำตอบอยู่แล้ว

วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม 2558 เวลา 6:00 น.


เปิดใจช้ำ ๆ “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิป ไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หลังโดนฟ้าผ่าลงกลางอกถูกสั่งปิด“พีซทีวี”ช่องทางสื่อสารหลักกับมวลชน นปช. ในช่วงพักเวทีม็อบระหว่างการปฏิรูปประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

***กรณี กสท.มีมติเพิกถอนใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์ช่องพีซทีวี

ผมเห็นว่ามันเป็นการจงใจเกินไป ไม่ว่าจะพิจารณาตามคำสั่ง คสช.หรือกฎหมายของ กสทช. เอง โดยสงสัยว่าเป็นการพิจารณาโดยหลักฐานอันเป็นเท็จหรือไม่ เป็นการใส่ความกล่าวหาและตัดสินโดยมิชอบหรือไม่ ยืนยันว่าเนื้อความที่ถอดเทปออกมาไม่ได้เป็นภัยต่อความมั่นคงใด ๆ เลย เมื่อจุดเริ่มต้นผิดคำตัดสินเพิกถอนการกระจายเสียงของสถานีโทรทัศน์ช่องพีซทีวีจึงเหมือนคำตัดสินประหารชีวิต เราก็ยอมรับกันมาตั้งแต่ต้นว่าเราเป็นช่องการเมืองว่าเราเลือกข้างมาตั้งแต่ต้น แต่ไม่มีเนื้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคงแน่นอน ซึ่งได้ไปร้องขอความเป็นธรรมกับประธาน กสทช. ว่าให้พิจารณาด้วยความเป็นธรรม

เราเห็นว่าจะเป็นการดำเนินการใด ๆ ก็แล้วแต่เป็นการดำเนินการโดยมิชอบเป็นการรักษาตนมากกว่ารักษาความถูกต้องหรือไม่ ที่ผ่านมา กสทช. เองก็ถูกตรวจสอบเรื่องการใช้งบประมาณ เมื่อดำเนินการโดยลุแก่อำนาจ โดยส่วนตัวผมก็จะใช้ช่องทางตามกฎหมายฟ้องร้องในเรื่องหมิ่นประมาทใส่ความ การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผมดำเนินคดีทางอาญาและทางแพ่งแน่นอน นายกรัฐมนตรีในฐานะรัฏฐาธิปัตย์ และองค์กรต่างประเทศต่าง ๆ ที่ได้ติดตามสถานการณ์ในประเทศไทย สุดท้ายจริง ๆ ถ้าหาที่พึ่งใดไม่ได้ ก็จะยึดแนวทางที่การถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นปลายทาง

***คิดว่าการไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำประเทศ ถ้ายึดแนวทางของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี เคยพูดเอาไว้คือ ก่อนพูดเราเป็นนายแต่เมื่อพูดไปแล้วคำพูดเป็นนายเรา พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดในต่างกรรมต่างวาระ เช่น เราเป็นประชาธิปไตย99%เราเป็นประชาธิปไตยมากกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ให้วิพากษ์วิจารณ์ได้แต่อย่าต่อต้าน หรือเราเป็นรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจที่ดีที่สุดตั้งแต่ประเทศไทยเคยมีมา เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ พูด คำพูดเหล่านี้เป็นนาย ได้ยินกันทั้งโลกไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทย

ดังนั้นการกระทำใด ๆ ที่สวนทางต่อคำพูดของนายกฯ ไม่ใช่เป็นการทำลายพีซทีวีเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการทำลายเกียรติภูมิของคนเป็นนายกฯ ประเทศไทยด้วย ทัศนคติเราจะเหมือนหรือจะต่างกันก็ตาม เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ พูดอะไรออกมา คำพูดเป็นนายของ พล.อ.ประยุทธ์ และเป็นสิ่งที่ผู้ใต้บังคับบัญชาต้องปฏิบัติตาม ถ้าไปทำสวนทางกับสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดเท่ากับเป็นการทำลาย พล.อ.ประยุทธ์

***สิ่งที่เกิดขึ้นกับพีซทีวีจะกระทบกับการปรองดองหรือไม่

ปัญหาการปรองดองไม่ใช่เรื่องการสลายสีเสื้อที่เป็นแค่เปลือก แต่แก่นแท้คือความอยุติธรรมและความเหลื่อมล้ำสองมาตรฐาน สิ่งที่เป็นปัญหาในเรื่องปรองดองผิดตั้งแต่แรกคือการตั้งคนที่มีปัญหาเข้าไปอยู่ในแม่น้ำ5สาย เราแสดงความเห็นมาแต่ต้นว่าคนที่เป็นคู่ขัดแย้งไม่ควรเข้าไปอยู่ในอำนาจ เพราะเมื่อเข้าไปอยู่ในอำนาจย่อมใช้อำนาจตามความเชื่อและทัศนะที่เป็นอคติ การพิพากษาพีซทีวีที่ต้องล้มหายตายจากจึงเป็นการตอกย้ำถึงความอยุติธรรม การปิดพีซทีวีเหมือนเป็นการผลักให้ นปช. ไปอยู่ในมหาสมุทรที่ใหญ่และกว้างขวางกว่า

เราอาจจะใช้การเคลื่อนไหวที่ไม่ใช่การชุมนุมสาธารณะ แต่เป็นการไปยื่นหนังสือหรือเสนอแนวทางต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเป็นข่าวได้ทุกวัน ไม่ได้เป็นข่าวเพียงช่องเดียวแต่จะไปทุกช่องและทุกฉบับ พวกผมสามารถไปได้ทุกวันทั้ง สนช. สปช. หรือองค์กรอิสระองค์กรอื่น ๆ ในลักษณะของการยื่นหนังสือที่ใคร ๆ ก็ทำกัน จะเป็นการขับเคลื่อนที่เป็นแรงเหวี่ยงแรงกระเพื่อมมากยิ่งกว่าจัดรายการในช่องพีซทีวี ดังนั้นการที่ไล่พวกเราออกจากลำธาร ลำห้วย ลำคลอง หารู้ไม่ว่าเป็นการผลักพวกเราไปสู่มหาสมุทร ใครเป็นผู้ที่วางแผนเรื่องนี้ต้องรู้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด

***มีแนวทางดูแลพนักงานอย่างไรหากทีวีถูกปิดจริง

เราต้องคิดวิธีการสื่อสารอย่างอื่น แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากในการหารายได้ เพราะรายได้หลักของสถานีคือโฆษณา ซึ่งเลี้ยงสถานีได้ในปัจจุบัน แต่หากทีวีถูกปิดก็อาจจะออกไปในรูปแบบของเว็บไซต์หรือสื่อโซเชียลอื่น ๆ แต่ก็จะทำให้รายได้ส่วนหนึ่งหายไป กำลังหาแนวทางว่าจะหารายได้ชดเชยอย่างไรไม่ให้คนอื่นเดือดร้อน ต้องคิดเผื่อตั้งแต่วันนี้ ส่วนคำสั่งปิดจะออกมาเมื่อไรขึ้นอยู่กับว่าคณะกรรมการ กสทช.ชุดใหญ่จะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมเมื่อไร

***การเดินสายร้องเรียนเกรงว่าจะนำไปสู่เหตุการณ์บานปลายมีมวลชนออกมาและมีการออกมาใช้ความรุนแรงหรือไม่

เราไม่ได้เดินทางไปในส่วนของมวลชนแต่เป็นบุคลากรของ นปช. ซึ่งไปได้เหมือนบุคคลอื่น เราไปครั้งละ2-3คน พวกเราก็สามารถสื่อสารกับสื่อได้ตามปกติ แต่ที่ผ่านมาถ้าดูให้ดีประชาชนสงบนิ่งเพราะพวกเรา แต่ดูเสมือนว่าคนที่วางแผนในเรื่องนี้ต้องการบีบออกมาให้ต่อสู้ พูดง่าย ๆ ว่าตบหัวให้ออกมาสู้ ทั้ง ๆ ที่เขาก็รู้ว่าเราไม่เคยกลัวอะไรในการต่อสู้นี้ แต่เราต้องการให้สติกับผู้มีอำนาจอย่างแท้จริงว่ามันไม่มีประโยชน์อะไร ใครก็ตามที่คิดจะทำร้ายพีซทีวี ทำร้ายประชาชน การทำเช่นนี้เป็นการทำร้าย พล.อ.ประยุทธ์ ด้วย ส่วนที่จะเดินสายฟ้องโลกที่ถูกปิดพีซทีวีนั้น ทางสถานทูตต่าง ๆ ได้ติดต่อพูดคุยกับ นปช. อยู่แล้ว มีช่องทางต่าง ๆ ให้พูดคุยได้

***แนวคิดจะไปถวายฎีกา จะเป็นการดึงเบื้องสูงลงมาหรือไม่

การถวายฎีกาเป็นโบราณราชประเพณีที่มีการสั่นกระดิ่งร้องทุกข์ จนถึงกรุงศรีอยุธยา กรุงรัตนโกสินทร์ จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมา นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ก็เคยถวายฎีการ้องทุกข์กรณี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี จนกระทั่งพล.อ.เปรม ในสมัยนั้นไม่รับตำแหน่งนายกฯ ต่อ จึงได้ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกฯ และนายบวรศักดิ์ ไปนั่งเป็นที่ปรึกษา เรื่องนี้ไม่ใช่การอ้างเบื้องสูง

***เชื่อหรือไม่ว่ามีผู้มีอำนาจสั่งปิดพีซทีวี หรือเกิดจากความตั้งใจของ กสทช.

ขอให้จับคณะกรรมการ กสทช.4คน มาสาบานต่อรูปปั้นข้างหน้าที่เป็นสิ่งเคารพสักการะว่าไม่มีใครมาสั่งการ ผมมั่นใจว่าไม่มีใครกล้าสาบาน วิธีการมันเป็นคำตอบอยู่แล้ว วิธีการมันผิดสังเกต ร้อนรน เร่งรีบ ถอดเทปยังไม่เสร็จ ยังไม่ดูเนื้อหาว่าไม่มีอะไรเลย โดยพฤติการณ์ก็เป็นคำตอบได้ว่าเรื่องนี้มีความเป็นมาอย่างไร

***คิดว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของการสั่งปิดพีซทีวีคืออะไร

เป็นการประเมินสถานการณ์ของบางฝ่ายที่ผิดพลาด คนที่เป็นผู้นำทั้งโลกถ้าโชคดีจะมีคนรอบข้างที่มีเหตุผล มีสติ คอยให้ความคิดเห็น ถ้าเป็นผู้นำที่โชคร้ายก็จะได้พวกบ่างช่างยุ ปิดเลยเรามีกำลัง เราจัดการได้ แทนที่จะให้สติว่าเขาอยู่ช่องนี้เขาบอกประชาชนไม่ให้ออกมา เขาไม่ได้เป็นภัยต่อรัฐบาล ถ้าให้สติกันแบบนี้รัฐบาลก็อยู่ได้ แต่ประเภทที่เป็นบ่างช่างยุถ้าเกิดเรื่องก็สายเกินแก้แล้ว ผมก็เห็นว่าพังมาหลายรัฐบาลแล้ว สำหรับใครก็ตามที่มีความคิดแบบนี้ เหมือนเป็นการหวังดีประสงค์ร้าย

***มีการระงับเทปออกอากาศของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ในช่วงค่ำของวันที่29เม.ย. ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

ก็ออกอากาศไป3ชั่วโมง แต่ในช่วงค่ำ ทหาร ตำรวจ ได้เข้ามา จะเข้ามาดูว่ามีการประชุมซ่องสุมหรือให้ พล.อ.ชวลิต ออกอากาศสดอีกหรือไม่ เจ้าหน้าที่รัฐทำงานแบบนี้ได้อย่างไร เพราะ พล.อ.ชวลิตออกอากาศไปแล้วช่วงเช้า แต่มาระงับการออกอากาศอีก ซึ่งไม่เป็นผลดี ยิ่งเป็นการตอกย้ำ เป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดเพราะออกอากาศไปและคนได้ดูหมดแล้ว แต่คนบางส่วนอาจจะยังไม่ได้ดูก็จะให้ความสนใจขึ้นทันที ตอนนี้ก็กลายเป็นค่ายทหารอิมพีเรียลไปแล้ว แต่เราก็ชวนกินข้าว กินกาแฟ ไม่ได้มองเป็นศัตรูเข้าใจว่านายสั่งให้มา แต่เรื่องนี้จะไม่เป็นผลดีต่อผู้มีอำนาจ เพราะ พล.อ.ชวลิต เป็นอดีตนายกฯ อดีต ผบ.ทบ. ซึ่งผู้มีอำนาจในขณะนี้ ในช่วงนั้นอาจมียศเป็นเพียงแค่ ร.อ. หรือ นายพันเท่านั้น พล.อ.ชวลิตเป็นผู้อาวุโส

***ประเมินว่า การปิดพีซทีวีทำเพื่อจุดประสงค์ใด

เขาวิเคราะห์สถานการณ์ได้ไม่ถูก คนที่ดูพีซทีวีไม่ใช่เฉพาะคนเสื้อแดง ประชาชนทั่วไปมีมากขึ้น ทางการข่าวของทหาร เราก็พอตรวจสอบได้ ที่ผ่านมา คสช. ขอว่าจัดรายการอย่าใส่เสื้อแดง เราก็ไม่ใส่ ใส่เสื้อสีอื่น

***ที่ผ่านมา นปช. ปฏิบัติตัวเป็นเด็กดีมาโดยตลอด แต่ก็มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เจ็บปวดเพียงใด

ทางผู้มีอำนาจเขารู้หัวใจของพวกเราเป็นอย่างดีว่าพวกเราเป็นคนอย่างไร ไม่ว่าเราจะมีความเห็นที่แตกต่าง ไม่ว่ากลไกใดที่กำลังทำอยู่ ที่จะยั่วยุให้เกิดปัญหาระหว่างกันมันไม่เป็นประโยชน์ ทั้งที่เราพยายามชี้ให้เห็นว่าจะต้องเห็นแก่ชาติมากกว่าเห็นแก่ตัว เราพยายามพูดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่เมื่อมีการปฏิบัติต่อเราเช่นนี้ ตอนนี้เรายังมีลมหายใจ เรายังมีชีวิตอยู่ ต้องต่อสู้ตามแนวทางหนทางที่สามารถทำได้ ซึ่งหมายความว่า จะสู้ทุกรูปแบบที่กฎหมายกำหนด.