วันอาทิตย์, สิงหาคม 16, 2558

ร่างรัฐธรรมนูญพึ่งตนเองของอำมาตย์



โดย เกษียร เตชะพีระ
ที่มา FB Kasian Tejapira

ข้อเสนอกก.ยุทธศาสตร์เพื่อปฏิรูปและปรองดองในร่างรัฐธรรมนูญทำให้ผมอดรู้สึกเห็นใจชนชั้นนำไทยที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเสียงข้างมากไม่ได้

คือแกพยายามมาร่วม ๑๐ ปีแล้วนะครับที่จะหันเหกงล้อประวัติศาสตร์ออกจากวิถีประชาธิปไตยสากล ไปสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบไม่ประชาธิปไตย (Transition to Non-Democracy)

สูตรสนธิ ลิ้ม@พันธมิตรฯก็แล้ว, สูตรรธน.๕๐@คมช.ก็แล้ว, สูตรกำนันเทือก@กปปส.ก็แล้ว ไม่สำเร็จซะที

ตอนนี้ก็มาถึงสูตรล่าสุด เรือแป๊ะ@คสช. (กก.ยุทธศาสตร์+รัฐบาลปรองดองแห่งชาติ+วุฒิสภาคสช.ตั้ง)

หัวใจคือกก.ยุทธศาสตร์ฯซึ่งฝ่ายแกนนำเหล่าสถาบันที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเสียงข้างมากเป็นสมาชิกส่วนใหญ่รายล้อมผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเห็น ๆ

แล้วมอบหมายคทาวิเศษคืออำนาจสัมบูรณาญาสิทธิ์แบบ ม. ๑๗ --> ม. ๔๔ ให้อยู่เหนือรัฐสภาและรัฐบาลทีเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยจากการเลือกตั้ง (อ่านเนื้อหาอำนาจดูเถอะครับ ลอกมาทุกคำ)

ทำไม?

เพราะไม่มีทางไปอื่นแล้วล่ะครับ นี่เป็นทางเดียวที่เหลือ

รัฐประหาร ๒ ครั้งที่ผ่านมา (โดยเฉพาะครั้งหลัง) กินบุญเก่าของอำมาตย์ไทยไปแทบเกลี้ยงเกลาแล้ว และสิ้นเปลืองความชอบธรรม/ยอมรับ/good will ที่นานาชาติมหาอำนาจคู่ค้าหลักมีกับไทยไปแทบหมดแล้วเช่นกัน

จะให้ทำต่อไปได้อีกสักกี่ครั้ง ในเมื่อกำราบพลังคะแนนเสียงข้างมากของประชาชนไทยในระบอบประชาธิปไตยจากการเลือกตั้งไม่สำเร็จสักที? ครั้งที่ ๓ หรือ? ๔ หรือ? ๕ หรือ?

หมดตูดบุญเก่าแล้วล่ะครับ และไม่มีหลักประกันความเป็นไปได้ว่าจุดธูปบนบานศาลกล่าวหนหน้าแล้ว คณะอำมาตย์ไทยจะขอให้พระสยามเทวาธิราชดลบันดาลรัฐประหารสำเร็จรูปครั้งใหม่ให้ได้อีก.....

เมื่อไม่อาจพึ่งพิงอำนาจศักดิ์สิทธิ์ของพระสยามเทวาธิราชได้ ก็ต้องพึ่งตนเอง, ไม่อาจทำรัฐประหารโต้ง ๆ ได้ ก็ตัดต่อปลูกถ่ายเซลล์มะเร็งเนื้อร้ายแห่งอำนาจรัฐประหารสำเร็จรูปเหนือรัฐสภาและรัฐบาลไว้ในกายาพยพของรัฐไทยใหม่ตามร่างรัฐธรรมนูญนี้เสียเลย

ถึงคราวจำเป็นก็จะได้เรียกมะเร็งนี้ให้ออกฤทธิ์ ทำให้รัฐไทยกลายเป็นอัมพาต อำนาจของประชาชนผ่านผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้งโดยชอบกลับตายทั้งเป็น กลายเป็น "ซอมบี้ประชาธิปไตย" ตบตาชาวโลกโดยไม่ต้องเข็นรถถังประกาศยึดอำนาจให้น่าเกลียด อ้างได้ว่านี่เป็น "ประชาธิปไตย(แบบอัลไต เอ๊ยแบบไทย ๆ)นะ" "นี่ทำตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญไง" อิ ๆ

แล้วจะให้แป๊ะทำไงอื่นได้ล่ะครับ ในเมื่อหวังพึ่งพระสยามเทวาธิราชแสดงอภินิหารบันดาลให้สำเร็จอีกคราวหน้ายากซะแระ

(ภาพและเนื้อข่าวจาก
๑) http://www.isranews.org/%E0%B9%80%…/…/40590-super_40590.html
๒) http://www.thairath.co.th/content/518178
๓)
http://www.msn.com/…/%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b9%8…/ar-BBlK4Ln…

ooo

เรื่องเกี่ยวเนื่อง...

พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ ค้านร่าง รธน. ชี้ สืบทอดอำนาจรัฐประหาร-ทำชาติล้าหลัง




ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เว็บไซต์ของพรรคเพื่อไทย ได้มีการเผยแพร่แถลงการณ์ของพรรค ซึ่งมี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค เป็นผู้ลงนามโดยมีใจความสำคัญ ระบุว่า จากการติดตามการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พบว่าแม้คณะกรรมาธิการ จะได้มีการปรับปรุงตามความคิดเห็นและคำขอแก้ไขจากพรรคเพื่อไทย และฝ่ายต่าง ๆ ในบางประเด็น แต่ปรากฏว่า มีบทบัญญัติที่เป็นสาระสำคัญในหลายส่วน มิได้มีการปรับเปลี่ยนแก้ไข และยังคงไม่ยอมรับว่าอำนาจอธิปไตย เป็นของปวงชนชาวไทย มีลักษณะสืบทอดอำนาจรัฐประหาร และขององค์กรที่มาจากคณะรัฐประหาร อันนำไปสู่การที่ประเทศและประชาธิปไตยล้าหลัง จนกระทั่งไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจและชีวิตของประชาชนได้ และที่สำคัญมิได้ก่อให้เกิดความปรองดองสมานฉันท์ ซึ่งเป็นปัญหาเฉพาะหน้าในปัจจุบัน

คณะทำงานพรรคเพื่อไทยขอสรุปว่า ร่างรัฐธรรมนูญนี้ไม่เคารพและไม่เชื่อมั่นในวิจารณญาณของประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตย นำไปสู่รัฐบาลผสมที่อ่อนแอ วางกลไกการบริหารจัดการประเทศที่รังแต่นำไปสู่ความล้มเหลวและความขัดแย้ง ขาดความน่าเชื่อถือในเวทีการเจรจาระหว่างประเทศ เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนของต่างประเทศ เพราะไม่มีนักลงทุนใดกล้าลงทุนในประเทศที่รัฐบาลอ่อนแอ ไม่มีความต่อเนื่องของนโยบาย นอกจากนี้ ร่างรัฐธรรมนูญนี้สร้างเงื่อนไขอันจะนำไปสู่ความขัดแย้งขึ้นใหม่ มุ่งสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารและกลุ่มที่สนับสนุน มิได้มีกรอบของการปฏิรูปที่ชัดเจน ครอบคลุมทุกด้านทุกองค์กร เป็นรัฐธรรมนูญที่ต้องการที่จะหยุดประชาธิปไตย ไม่ต้องการให้ประชาธิปไตยเป็นกลไกในการแก้ปัญหาของประเทศ อันจะทำให้ประชาชนอ่อนแอ ขาดสิทธิและโอกาส และประเทศไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดังนั้น คณะทำงานฯ พรรคเพื่อไทย จึงขอเน้นย้ำเจตนารมณ์ เพื่อยืนยันหลักการประชาธิปไตย ใน 2 ประเด็น รัฐธรรมนูญต้องไม่มีลักษณะการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร ต้องเป็นประชาธิปไตยที่ยอมรับเสียงของประชาชน และรัฐธรรมนูญต้องไม่กีดกัน กลั่นแกล้งกลุ่มบุคคล หรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ในการเข้ามาสู่กระบวนการประชาธิปไตย และการตัดสินใจของประชาชน โดยหวังว่าคำแถลงฉบับนี้จะเกิดประโยชน์ต่อการจัดทำกรอบกติกาของประเทศและการพัฒนาการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขต่อไป